Takeya หรือ ตึกม่วง Ueno ดีอย่างไรทำไมใคร ๆ ก็อยากไป
Takeya หรือที่ขาช้อปชาวไทยเราเรียกติดปากกันว่า ‘ตึกม่วง’ แหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีนและชาวไทยอย่างเราที่แห่กันมาที่นี่เพื่อช้อปปิ้งทุกสิ่งอย่าง เพราะที่นี่เค้ามีขายตั้งแต่ขนมยอดฮิตไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ !
Takeya เป็นร้านค้าปลอดภาษีที่อยู่คู่กับประเทศญี่ปุ่นมายาวนานที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนต้องแวะเวียนมาให้ได้สักครั้ง เพราะที่นี่คือแหล่งรวมสินค้าทุกอย่าง ทั้งสินค้าที่นักท่องเที่ยวต้องการและบางอย่างที่ไม่คิดว่าจะต้องการ แต่ก็ได้ติดมือกลับบ้านไปซะอย่างนั้น ! ซึ่งวันนี้เรามาพร้อมคูปองส่วนลดของการช้อปสินค้าภายในร้านและรีวิวความดีงามของร้านนี้ให้ทุกคนได้รู้จัก
เตรียมพร้อมก่อนเดิน ตึกม่วง Takeya แหล่งช้อปสุดครบครัน
ก่อนจะมาที่นี่โปรดแวะกินข้าวให้อิ่มท้องเอาแรงกันก่อน เพราะตึกม่วงแห่งนี้ถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งอีกแห่งที่โหดปราบเซียนด้วยจำนวนอาคารทั้งหมด 8 อาคาร ซึ่งประกอบไปด้วยจำนวนชั้นมากถึง 40 ชั้น !!
ได้ยินแบบนี้แล้วก็อย่าเพิ่งถอดใจหนีกลับบ้านไปก่อน เพราะแต่ละตึกของ Takeya เค้าทำการแบ่งไว้อย่างชัดเจนว่าตึกไหนขายอะไรบ้าง ซึ่งบางตึกก็อาจไม่มีสินค้าเป้าหมายของเราจำหน่าย เพราะฉะนั้น อันดับแรกที่ต้องทำนอกเหนือไปจากการกินข้าวให้อิ่มก็คือ ‘การวางแผน’
เริ่มจากการลำดับประเภทของสินค้าที่หมายปองว่าอยู่ในหมวดใด อย่างเช่น ของกิน เครื่องสำอาง วิตามิน กระเป๋าแบรนด์เนม หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า จากนั้นก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้านั้นๆจากอินเทอร์เน็ตก่อน ระบุรูปแบบ สีสัน และยี่ห้อได้ยิ่งดีเพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีสินค้าประเภทเดียวกันหลายสีหลายแบบและหลายยี่ห้อมาก หากเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปเลยอาจสับสนจนไม่ได้ของที่ต้องการจริง ๆ กลับมาก็เป็นได้
เรามาแอบดูกันบ้างดีกว่าว่าสินค้าที่ว่าเยอะเนี่ยมันมีอะไรกันบ้าง แล้วเป็นสินค้าประเภทไหน ใช่แบบที่คุณตามหาอยู่หรือเปล่านะ ?
ผลไม้ตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นสตอเบอร์รี่หรือเมล่อน ที่อาคารตกแต่งภายในชั้น 1
ของกิน ที่เป็นของฝากยอดฮิตของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นขนมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ หรือจะเป็นเยลลี่ ถั่ว ช็อคโกแลต ก็สามารถหาซื้อได้ที่ตึก AB ชั้น 1 เลยค่ะ
ส่วนในชั้น 2 ของตึกABนั้น ถือว่าเป็นสวรรค์ของสาวๆเลยก็ว่าได้ เพราะมีทั้งสกินแคร์ เครื่องสำอาง น้ำหอม วิตามิน และยา
สินค้าจำพวกยาสามัญ ไม่ว่าจะเป็นยาทาสิวหรือยาและแผ่นแปะร้อนในก็มี
กันแดดยอดนิยมอย่าง Anessa หรือ Biore ก็มี
เครื่องสำอางแบรนด์ต่าง ๆ มีเพียบ
รวมไปถึงเครื่องสำอางจากเคาท์เตอร์แบรนด์ราคาพิเศษ
น้ำหอมเองก็มีหลายแบบให้เลือก
แว่นตา แว่นตากันแดด นาฬิกา ก็มีจัดจำหน่ายที่ตึกAชั้น3 และ4
นาฬิกาจากแบรนด์ดังก็มา เลือกช้อปกันได้อย่างจุใจ
ที่ตึกBชั้น3 ก็มีกระเป๋าแบรนด์เนมต่างๆ ตั้งแต่ Longchamp ไปจนถึง Hermes เลย
ส่วนกระเป๋าแฟชั่นสำหรับสุภาพสตรี อย่าง Anello มีจัดจำหน่ายที่อาคารสุภาพสตรีชั้น 7
รองเท้าผ้าใบก็มีทั้งแบรนด์ Nike, Onitsuka Tiger, Adidas
แน่นอนว่ามีเสื้อผ้าเท่ ๆ ให้ช้อปด้วยเช่นกัน
สินค้าอื่น ๆ อย่างกระเป๋าเดินทาง หรือเครื่องประดับถ้าใครกำลังตามหาอยู่ทาง Takeya เขาก็มีจำหน่ายนะ
และนี่คือลิสต์สินค้าของแต่ละตึกว่ามีจำหน่ายอะไรบ้าง ลองคลิ๊กเข้าไปดูได้เลยค่ะ
- ตึก A (จำหน่ายอาหาร ยา วิตามินเพื่อสุขภาพ นาฬิกา เครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อความงาม เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน กระบอกน้ำแสตนเลส) มีทั้งหมด 9 ชั้น
- ตึก B จำหน่ายอาหาร เครื่องสำอาง สินค้าแบรนด์เนมนำเข้า สินค้าสำหรับสุภาพบุรุษ) มีทั้งหมด 8 ชั้น
- อาคารสำหรับสุภาพสตรี (จำหน่ายสินค้าสำหรับสุภาพสตรี อาทิ เครื่องสำอาง ยา วิตามินเพื่อสุขภาพ เสื้อผ้า กระเป๋า) มีทั้งหมด 9 ชั้น
- อาคารเฟอร์นิเจอร์ (จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง จักรยาน) มีทั้งหมด 6 ชั้น
- อาคารเฟอร์นิเจอร์2 (จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวัน อาทิ แปรงสีฟัน แชมพู น้ำยาซักผ้า) มีทั้งหมด 1 ชั้น
- อาคารอุปกรณ์ตกแต่งภายใน (จำหน่ายผลไม้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สุราญี่ปุ่น ม่าน เครื่องนอน) มีทั้งหมด 4 ชั้น
- อาคาร 5 (ให้บริการเช่าชุดกิโมโนที่ชั้น 2) มีทั้งหมด 1 ชั้น (ให้บริการเฉพาะชั้นที่ 2 )
- อาคาร 8 (จำหน่ายเครื่องเขียน ปากกาลบได้ เครื่องสำอางสำหรับสุภาพบุรุษ น้ำหอม) มีทั้งหมด 2 ชั้น
หากท่านใดซื้อสินค้าตั้งแต่ 5,000 เยนขึ้นไป สามารถขอคืนภาษีตอนชำระเงินได้เลย เนื่องจากที่ตึกม่วงมีเคาน์เตอร์ขอยกเว้นภาษีมากถึง 21 จุด แทบจะทุกชั้นเลยก็ว่าได้
ที่มา : chillchilljapan.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น