ชมดอกไอริสและธรรมชาติในเมืองใหญ่ที่ Meiji Shrine Inner Garden! กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

สถานที่ที่จะพาไปชมนี้ก็คือศาลเจ้า Meiji Shrine หรือ Meiji Jingu (明治神宮) นั่นเองค่า แต่ว่าที่เราจะแนะนำในครั้งนี้เป็นในส่วนของ Meiji Shrine Inner Garden(Meiji Jingu Gyoen / 明治神宮御苑) ที่อยู่ในบริเวณศาลเจ้า Meiji Shrine กันนะคะ

 วิธีการเดินทางมายังศาลเจ้า Meiji Shrine

นั่งรถไฟ JR ลงสถานี Harajuku เดินตรงออกมาบริเวณที่ขายตั๋ว เดินเลยไปจนถึงสะพานหินขนาดใหญ่ (Jingu Bashi) ข้ามสะพานไปจะเห็นเสาโทริอิขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่า แสดงว่าถึงแล้ว  

นี่ค่ะ เดินตรงมาทางที่มีป้ายแมคโดนัลด์และด้านขวามือมีที่ขายตั๋วอยู่ค่ะ เดินทะลุตรงออกไปเลยนะคะ

ออกมาจากสถานีประมาณ 50 เมตรจะเจอสะพานหินขนาดใหญ่ ขวามือมีเสาหินตั้งเด่นชัด จากนั้นก็ข้ามสะพานนี้ไปเลยค่ะ จุดหมายเราอย่ฝั่งตรงข้ามที่ดูเป็นป่าใหญ่

พอข้ามสะพานมาแล้วจะเจอกับเสาโทริอิไม้ใหญ่เบ้อเริ่ม เห็นแต่ไกล รับรองไม่หลงแน่นอนค่ะ Meiji shrine Jingu Inner Garden นั้นจะอยู่ด้านในนะคะ ให้เดินเข้าไปเลย

เดินจากทางเข้ามาเรื่อยๆ จนเดินเลยสะพานตรงนี้ไปเล็กน้อย จะเจอทางเข้าสวนอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ ทางเข้าจะไม่มีป้ายนะคะ คือกว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่ถึงทางเข้าแล้ว

Meiji Shrine Inner Garden

นี่คือบริเวณทางเข้าด้านทิศใต้ค่ะ คือเป็นโรงไม้เล็กๆ ไฟสลัวๆ มีเจ้าหน้าที่ 2 คนนั่งประจำอยู่

ด้านข้างจะเป็นที่นั่งสำหรับพักเหนื่อย มีเอกสารให้ความรู้เกี่ยวกับสวนด้านใน ไปจนกระทั่งมีตราประทับให้ลองประทับกันค่ะ มีแบบปั้มตราแล้วส่งไปรษณีย์ด้วยนะคะ

ด้านในมีอะไรกันบ้างนะ? ส่วนใหญ่ก็เป็นการชมสัตว์ (ตามหากันเองในป่า) การชมสวนดอกไม้ และชมธรรมชาติค่ะ

เวลาทำการของ Meiji shrine Jingu Inner Garden ค่ะ

เวลาเปิด-ปิด จะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับฤดูกาล เดือนมีนาคม – ตุลาคม เปิดตั้งแต่ 9.00 – 17:00 (เข้าก่อน 16:30) ส่วนเดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ เปิดตั้งแต่ 9.00 – 16:30 (เข้าก่อน 16:00) ฤดูหนาวปิดเร็วหน่อยเพราะที่ญี่ปุ่นมืดเร็วมาก

ค่าเข้าชมสวน (ค่าบำบำรุงรักษาสวน) ราคา 500 เยน ได้ตั๋วมา 1 ใบเป็นรูปดอกไอริสที่กำลังบานในฤดูนี้ พร้อมแผนที่สวนและความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสวน (ภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น)

แผนที่โดยรวมของ Meiji shrine Jingu Inner Garden

เห็นแล้วคุ้มเลยค่ะ 500 เยนได้เดินชมสวนกว้างขนาดนี้

ทางเดินในบริเวณป่าค่ะ ส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบสิ่งหนึ่งของที่นี่คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ การอำนวยความสะดวกจะใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติ ไม่ใช้ปูนซีเมนต์ค่ะ ทางเดินที่เราเห็นคือเป็นบันไดดิน ปูทับด้วยหิน ราวจับเป็นไม้ไผ่กับเชือก ดูแล้วไม่ขัดกับป่าเลยค่ะ รู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติดีจัง

พอเดินเข้าไปถึงบึงแล้วจะเจอศาลาแบบญี่ปุ่นค่ะ นั่งพัก กินลมชมวิวสบายๆ ใกล้เข้าไปด้านริมบึงจะมีคนที่นั่งถ่ายภาพนกอยู่ค่ะ ที่สวนนี้จะมีนกอยู่หลายสายพันธุ๋ ดังนั้นจึงมีช่างภาพมาถ่ายรูปไม่ขาดสาย

เดินเลยจากศาลามานิดหน่อยจะเจอจุดชมบึงขนาดใหญ่ มีดอกบัวบานอยู่ทั่วบริเวณ

ในบึงก็มีปลาสวยงามอยู่ด้วยค่ะ รวมถึงมีเต่า ตะพาบ และสัตว์น้ำอื่นๆด้วย รู้สึกได้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของบึงนี้เลยล่ะค่ะ แค่มองก็รู้สึกเย็นแบบธรรมชาติมากๆ สำหรับเราที่เห็นตึกในโตเกียวทุกวัน จุดนี้จึงเป็นการผ่อนคลายที่ดีมากเลยก็ว่าได้

เดินเลยบึงขนาดใหญ่เข้ามาอีกประมาณ 100 เมตร จะเจอส่วนที่เป็นโซนชมดอกไม้ค่ะ เป็นสวนดอกไม้ที่ปลูกบนพื้นที่น้ำไหลลึกประมาณข้อเท้า ช่วงต้นเดือนมิถุนายนเป็นช่วงฤดูร้อนที่ดอกไอริสกำลังบานละพรั่งเลยค่ะ ในแต่ละฤดูก็จะมีดอกอื่นๆ สลับกันบาน ในส่วนของสวนดอกไม้เขาห้ามเข้าไปใกล้นะคะ แต่จะมีบริเวณที่จัดไว้ให้ถ่ายรูปแทน

ชมดอกไอริสแบบใกล้ๆ กันอีกนิด ดอกไอริสที่ปลูกมีหลายสายพันธุ์เลยค่ะ ที่เห็นชัดๆ มีอยู่ 3 สี คือ น้ำเงินอมม่วง  สีม่วงอ่อนๆ และสีขาวค่ะ

จุดนี้ถ่ายบนสะพานที่เขาจัดไว้ให้ ได้ชมแบบใกล้ๆ แค่คว้ามือยังทำได้ แต่ว่าไม่ควรนะคะ ชมสวยๆ แบ่งให้คนอื่นๆเขาชมบ้างนะคะ

เดินมาจนสุดทางเดินพอย้อนกลับไปมองแล้วจะเห็นว่าส่วนชมดอกไม้โดยรวม…รู้สึกดี สมองได้ผ่อนคลายมากๆ ที่บริเวณจุดท้ายสุดของการชมดอกไม้จะมีศาลาไว้ให้นั่งชมดอกไม้ฟินๆ อยู่ด้วยนะคะ และมีป้ายประวัติเกี่ยวกับดอกไม้ด้วย

เดินเลยจุดชมดอกไม้มาอีกประมาณ 200 เมตร จะเป็นจุดต้นน้ำค่ะ เรียกว่าเป็นจุดที่เป็นแหล่งน้ำของสวนนี้เลยก็ว่าได้ ถ้าเรียกให้คล้ายๆ บ้านเราน่าจะเรียกได้ว่า “ตาน้ำ” ค่ะ บริเวณตาน้ำจะมีเจ้าหน้าที่ยืนเฝ้าอยู่ด้วยคนหนึ่ง และคาดว่าจะมีการให้ขอพรด้วย 

เห็นคนญี่ปุ่นวักน้ำล้างมือและทำท่าอธิฐานด้วย เราก็ทำบ้าง น้ำเย็นและใสมากเลย สีใสด้านล่างเป็นสีครามเข้มใส ในส่วนของการขอพร เราไม่ได้ขออะไรนะคะ แค่ทำใจให้สงบเท่านั้นเอง

ที่มา : japankakkoii.com